สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะเลือกซื้อ iPhone 16 รุ่นไหน ระหว่าง iPhone 16 ธรรมดา, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro หรือ iPhone 16 Pro Max เชื่อว่าผู้ใช้งานเดิมอาจมีคำตอบในใจแล้วว่าต้องการจะอัปเกรดไปที่รุ่นใด แต่สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนมาใช้ iPhone เป็นครั้งแรก หรือนานๆ ทีจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนสักเครื่อง การเลือกซื้อ iPhone 16 รุ่นที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบและเปรียบเทียบแต่ละรุ่นอยู่พอสมควร
ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง 5 ข้อดีของ iPhone 16 Pro ซึ่งอาจจะช่วยเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการตัดสินใจ หากคุณกำลังมองหา iPhone รุ่นใหม่และยังไม่แน่ใจว่ารุ่น Pro จะตอบโจทย์หรือไม่ ลองมาดูฟีเจอร์เหล่านี้กัน หากพบว่าตรงกับความต้องการของคุณ รุ่นนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากไม่ตรง ก็จะช่วยให้คุณตัดรุ่นนี้ออกจากตัวเลือกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
1. ได้กล้องคุณภาพเท่า Pro Max
ก่อนหน้านี้ ใครที่อยากได้กล้องเทพๆ ต้องเลือก iPhone Pro Max เพราะหนึ่งในข้อเสียเปรียบที่ผู้ใช้ iPhone Pro รุ่นก่อนหน้าเคยรู้สึกมาโดยตลอดคือความสามารถในการซูมที่จำกัดเพียง 3X ในขณะที่รุ่น Pro Max สามารถซูมได้ถึง 5X แต่ตอนนี้ iPhone 16 Pro ก็ไม่น้อยหน้าใครแล้วค่ะ เพราะมาพร้อมเลนส์ซูม 5X เท่ากันเป๊ะๆ ทำให้คุณไม่ต้องเลือกแล้วว่าจะเอาความสามารถในการซูม หรือขนาดเครื่องที่เล็กกะทัดรัด เพราะ iPhone 16 Pro ให้คุณได้ทั้งสองอย่างในเครื่องเดียว!
2. ขนาดพอเหมาะ พกพาสะดวก
ถ้าคุณรู้สึกว่า iPhone 16 เล็กไปหน่อย แต่ iPhone 16 Pro Max ใหญ่เกินไป iPhone 16 Pro คือตัวเลือกที่ลงตัวที่สุดครับ เพราะขนาดของมันกำลังดี ไม่เล็กจนเกินไป และไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้หยิบจับใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง หรือจะถือเล่นตอนเดินทางก็สะดวกสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นขนาดที่ลงตัวสำหรับทุกไลฟ์สไตล์เลยค่ะ แถมยังได้ฟีเจอร์เจ๋งๆ ครบครันเหมือนรุ่น Pro Max อีกด้วย
3. หน้าจอ ProMotion 120Hz
หน้าจอ ProMotion 120Hz ของ iPhone 16 Pro ช่วยให้การแสดงผลของหน้าจอมีความลื่นไหลและรวดเร็วยิ่งขึ้น การเลื่อนหน้า การสลับแอปพลิเคชัน หรือการเล่นเกมจะตอบสนองทันทีไม่มีสะดุด นอกจากนี้ หน้าจอของรุ่น Pro ยังรองรับการแสดงผล HDR ทำให้สีสันสดใสและคมชัดกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ส่วน iPhone 16 และ iPhone 16 plus ยังคงเป็น 60Hz
4. หน้าจอรุ่น Pro ใหญ่ขึ้นกว่าปีก่อน 0.2 นิ้ว
หลายปีที่ผ่านมา iPhone รุ่น Pro มักถูกมองข้ามโดยผู้ที่ต้องการหน้าจอใหญ่ เนื่องจากขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับรุ่น Pro Max ที่มีหน้าจอถึง 6.7 นิ้ว ทำให้การใช้งานบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดูคอนเทนต์วิดีโอที่เต็มตามากขึ้น หรือการเลื่อนอ่านโซเชียลที่ให้ความคมชัดและสะดวกสบายกว่าด้วยหน้าจอที่ใหญ่กว่า แต่ปีนี้ iPhone 16 Pro เพิ่มขนาดหน้าจอมา0.2 นิ้ว แม้การเพิ่มขนาดหน้าจอเพียง 0.2 นิ้วอาจดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่หากลองพิจารณาดีๆ จะพบว่าการขยายทั้งด้านกว้างและด้านยาวทำให้หน้าจอแสดงผลคอนเทนต์ได้ชัดเจนและเต็มตามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
5. ราคาที่ดีกว่าในสเปคที่เท่ากับ Pro Max
ราคาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ iPhone 16 Pro ดูน่าสนใจมาก โดยหากนำไปเทียบกับรุ่น 16 Plus และ Pro Max รุ่น iPhone 16 Pro ถือว่ามีราคาที่คุ้มค่าอย่างมาก
เริ่มจาก iPhone 16 Pro ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ 128GB เมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 16 Plus ที่ราคาเริ่มต้น 34,900 บาทในความจุเดียวกัน แม้จะมีส่วนต่างกันอยู่ 5,000 บาท และขนาดหน้าจอของ 16 Pro จะเล็กกว่า 16 Plus อยู่ 0.4 นิ้ว แต่ iPhone 16 Pro มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ คือมาพร้อมกล้องที่มากกว่า 1 เลนส์ ทำให้ถ่ายภาพได้หลายระยะมากขึ้น และยังใช้ชิป Apple A18 Pro ที่ทรงพลังยิ่งกว่า
ในขณะเดียวกัน ถ้านำ iPhone 16 Pro ไปเทียบกับ iPhone 16 Pro Max รุ่นความจุ 256GB ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 48,900 บาท จะเห็นได้ชัดว่ารุ่น Pro ความจุ 256GB มีราคาถูกกว่าถึง 5,000 บาท โดยข้อแตกต่างหลักคือหน้าจอที่เล็กกว่า Pro Max อยู่ 0.6 นิ้วเท่านั้น
และนี่คือ 5 เหตุผลที่ iPhone 16 Pro น่าสนใจมากกว่ารุ่นอื่น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้คนที่กำลังลังเลหรือคนที่สนใจนะคะ และอย่าลืม
ปกป้อง iPhone 16 ของคุณให้ไร้รอยขีดข่วน ด้วยกระจก ABLEMEN
กระจกคริสตัลกลาสความใสระดับพรีเมียม ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ทนทานต่อทุกความท้าทาย คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่รูปภาพด้านล่างได้เลยค่ะ