อัปเกรดคุ้มไหม? เปรียบเทียบสเปค iPad mini 6 และ iPad mini 7 อย่างละเอียด

สำหรับคนที่กำลังมองหา iPad ขนาดกะทัดรัดไว้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือทำงานเบาๆ การเลือกซื้อระหว่าง iPad mini 6 และ iPad mini 7 อาจทำให้คุณสับสนได้ วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบสเปคของทั้งสองรุ่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก iPad mini ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

ตารางเปรียบเทียบสเปค iPad mini 6 vs iPad mini 7

ต่างตรงไหนบ้าง?

iPad mini 7 มาพร้อมกับตัวเลือกสีใหม่ที่น่าสนใจ โดยในรุ่นนี้ Apple ได้ทำการปรับเปลี่ยนเฉดสีเล็กน้อย โดย นำสีชมพูออก และเพิ่ม สีฟ้า เข้ามาแทน ทำให้ขณะนี้ผู้ใช้สามารถเลือกจาก 4 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ (Space Gray), สีม่วง (Purple), สีสตาร์ไลท์ (Starlight), และ สีฟ้า (Blue) สีสันเหล่านี้สะท้อนความสดใหม่และยังคงให้ความหรูหราในดีไซน์ขนาดกะทัดรัดที่เป็นเอกลักษณ์ของ iPad mini

ดีไซน์ของ iPad mini 7 และ iPad mini 6 ยังคงคล้ายคลึงกันอย่างมาก ทั้งในด้าน ขนาดตัวเครื่อง และ น้ำหนัก รวมถึงหน้าจอที่ยังคงใช้ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว เช่นเดิม ซึ่งให้การแสดงผลที่คมชัดและสีสันสดใสเหมือนรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่น่าสังเกตคือ ด้านหลังเครื่องของ iPad mini 7 จะมีการ สลักคำว่า “iPad mini” ซึ่งในรุ่นก่อนอย่าง iPad mini 6 จะสลักเพียงคำว่า “iPad” เท่านั้น การเพิ่มคำว่า “mini” ทำให้ดูแตกต่างและเป็นการเน้นย้ำความเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้มากยิ่งขึ้น

ชิป

iPad mini 7 มาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งสำคัญในด้านประสิทธิภาพ โดยเปลี่ยนมาใช้ ชิป A17 Pro ซึ่งเป็นก้าวกระโดดจาก ชิป A15 Bionic ที่ใช้อยู่ใน iPad mini 6 ชิป A17 Pro ช่วยให้ iPad mini 7 มีประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 30% ในการประมวลผลทั่วไป รวมถึงการทำงานด้านกราฟิกที่ซับซ้อนและการเล่นเกม อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ทำให้การใช้งานต่อเนื่องยาวนานยิ่งกว่าเดิม

สิ่งที่โดดเด่นใน iPad mini 7 คือการรองรับการเล่นเกมที่ ลื่นไหล ไม่สะดุด ด้วยการใช้ ตัวเร่งการทำงานของฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยี Ray Tracing ทำให้การเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ หรือเกม AAA ที่หลายคนชื่นชอบสามารถทำงานได้อย่างไร้ข้อจำกัด ภาพสมจริง และเฟรมเรตที่นิ่งมากขึ้น

นอกจากนี้ ชิป A17 Pro ยังเสริมประสิทธิภาพให้กับการทำงานของ Apple Intelligence เช่น ระบบ Machine Learning และ AI ซึ่งทำให้ iPad mini 7 สามารถรองรับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะมาในอนาคตได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ หรือการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง

ราคา iPad mini 7 ชิป A17 Pro

iPad mini 7 รุ่น Wi-Fi

iPad mini 7 รุ่น Wi-Fi + Cellular

หลังจากพิจารณาการเปรียบเทียบระหว่าง iPad mini 6 และ iPad mini 7 อย่างละเอียด จะเห็นได้ว่าการอัปเกรดนี้มีความแตกต่างที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของ ชิปประมวลผล A17 Pro ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเล่นเกมได้อย่างมาก  สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับ ฟีเจอร์ในอนาคต โดยเฉพาะผู้ที่เน้นการเล่นเกม หรือการทำงานด้านกราฟิก การอัปเกรดเป็น iPad mini 7 ถือว่าคุ้มค่า แต่หากคุณพอใจกับการใช้งานพื้นฐานใน iPad mini 6 ซึ่งยังคงตอบโจทย์ได้ดีและมีราคาที่ถูกกว่า iPad mini 6 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ