ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน พลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวันจึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างมาก Samsung Galaxy S25 Series ที่กำลังจะเปิดตัวก็เช่นกัน ประเด็นเรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับระบบแบตเตอรี่และการชาร์จของ S25 Series ตั้งแต่ความจุ การจัดการพลังงาน ไปจนถึงเทคโนโลยีการชาร์จ เพื่อให้คุณเข้าใจถึงประสิทธิภาพและพัฒนาการของแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้
ความจุแบตเตอรี่ เท่าเดิม แต่บางลง
จากข้อมูลที่หลุดออกมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง เช่น Ice Universe และข้อมูลการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ พบว่า Samsung Galaxy S25 Series จะยังคงใช้ความจุแบตเตอรี่เท่าเดิมกับรุ่น S24 Series แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวเครื่องจะบางลงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นความท้าทายในการออกแบบอย่างมาก
- Galaxy S25: 4,000 mAh (บางลง 0.4 มม. เหลือ 7.2 มม.)
- Galaxy S25+: 4,900 mAh (บางลง 0.4 มม. เหลือ 7.3 มม.)
- Galaxy S25 Ultra: 5,000 mAh (บางลง 0.4 มม. เหลือ 8.2 มม.)
การที่ Samsung สามารถลดความหนาของตัวเครื่องได้โดยที่ความจุแบตเตอรี่เท่าเดิม แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ดังนี้
- เทคโนโลยีแบตเตอรี่: มีความเป็นไปได้ที่ Samsung จะใช้แบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น ทำให้สามารถบรรจุพลังงานได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม หรืออาจมีการปรับปรุงวัสดุและโครงสร้างของแบตเตอรี่
- การออกแบบภายใน: การจัดวางส่วนประกอบภายในตัวเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดพื้นที่ที่ต้องใช้สำหรับแบตเตอรี่ ทำให้สามารถลดความหนาของตัวเครื่องได้
- การจัดการความร้อน: การระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความจำเป็นในการเว้นพื้นที่สำหรับระบายความร้อน ทำให้สามารถลดขนาดโดยรวมของตัวเครื่องได้
ฟีเจอร์ AI Battery: อัจฉริยะในการจัดการพลังงาน
มีข่าวลือที่น่าสนใจว่า Samsung Galaxy S25 Ultra อาจมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “AI Battery” ซึ่งจะใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ประมาณ 5-10% โดยไม่ต้องเพิ่มความจุแบตเตอรี่จริง
การทำงานของ AI Battery คาดว่าจะประกอบด้วย:
- การเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน: AI จะเรียนรู้ว่าผู้ใช้ใช้งานแอปพลิเคชันใดบ้าง ในช่วงเวลาใด และบ่อยแค่ไหน
- การปรับการใช้พลังงานแบบไดนามิก: AI จะปรับการใช้พลังงานของแอปพลิเคชันและส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่องแบบอัตโนมัติ เช่น การลดการทำงานของเบื้องหลังของแอปพลิเคชันที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือการปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแสง
- การคาดการณ์การใช้งาน: AI อาจคาดการณ์การใช้งานของผู้ใช้ในอนาคต และปรับการใช้พลังงานล่วงหน้า เพื่อให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานที่สุด
ระบบชาร์จไฟ ยังคง 45W หรือมีอะไรใหม่
จากข้อมูลล่าสุด พบว่า Samsung Galaxy S25 Ultra จะยังคงรองรับการชาร์จไฟสูงสุดที่ 45W ซึ่งเป็นความเร็วในการชาร์จเท่าเดิมกับรุ่น S24 Ultra ในขณะที่ S25 และ S25+ อาจรองรับ 25W และ 45W ตามลำดับ
แม้ว่าความเร็วในการชาร์จจะไม่เปลี่ยนแปลงในรุ่น Ultra แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในตลาด อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้:
- ประสิทธิภาพการชาร์จ: แม้ความเร็วในการชาร์จสูงสุดจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ Samsung อาจปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จ ทำให้สามารถชาร์จได้เต็มเร็วขึ้นในช่วงแรก หรือมีการจัดการความร้อนที่ดีขึ้นขณะชาร์จ
- มาตรฐานการชาร์จ: S25 Series อาจรองรับมาตรฐานการชาร์จใหม่ๆ เช่น USB Power Delivery 3.1 หรือมาตรฐานอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการชาร์จ
- การชาร์จไร้สาย: มีข่าวลือว่า S25 Series จะรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi2 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับ MagSafe ของ Apple ซึ่งอาจมาพร้อมกับแม่เหล็กสำหรับยึดติดกับอุปกรณ์เสริม